บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์
การทำผ้าบาติก ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำผ้าบาติก คณะผู้จัดทำได้ศึกษาข้อมูล
เอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 ประวัติผ้าบาติก
ผ้าบาติกหรือผ้าปาเต๊ะ
เป็นคำที่เรียกผ้าชนิดที่มีการทำโดยใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสีและใช้วิธีการแต้ม ระบาย
หรือย้อมในส่วนที่ต้องการให้ติดสี
ผ้าบาติกบางชิ้นอาจจะผ่านขั้นตอนการปิดเทียน
แต้มสี ระบายสี และย้อมสีนับสิบๆครั้ง ส่วนผ้าบาติกอย่างง่ายอาจทำโดยการเขียนเทียนหรือพิมพ์เทียน
แล้วจึงนำไปย้อมสีที่ต้องการ
คำว่า”บาติก” ( Batik) หรือ “ปาเต๊ะ” ( Batek) มาจากคำว่า Ba = Art และ Tik = จุด
เดิมเป็นคำในภาษาชวา
ใช้เรียกผ้าที่มีลวดลายเป็นจุด
คำว่า “ติก” มีความหมายว่า เล็กน้อยหรือจุดเล็กๆมีความหมายเช่นเดียวกับ
คำว่า ตริติก หรือตาริติก
ดังนั้นคำว่า บาติก
จึงมีความหมายว่าเป็นงานศิลปะบนผ้าที่มีลวดลายเป็นจุดด่างๆ
วิธีการทำผ้าบาติกในสมัยดั้งเดิมใช้วิธีการเขียนด้วยเทียน
(Wax
writing /Wax hand draw) ดังนั้น
ผ้าบาติกจึงเป็นลักษณะผ้าที่มีวิธีการผลิตโดยใช้เทียนปิดในส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี และใช้วิธีระบาย แต้มและย้อมในส่วนที่ต้องการให้ติดสี แม้ว่าวิธีการทำผ้าบาติกในปัจจุบันจะก้าวหน้าไปมากแล้วก็ตามแต่ลักษณะเฉพาะประการหนึ่งของผ้าบาติก ก็คือจะต้องมีวิธีการผลิตโดยใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสีหรือส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสีซ้ำอีก
2.2 ขั้นตอนการทำผ้าบาติก
2.2.1 นำผ้าที่ทำความสะอาดแล้ว
นำมาขึงให้ตึงกับกรอบไม้บาติก โดยวิธีการขลิบผ้าแล้วเขียนลาย เขียนลวดลาย
หรือภาพที่ต้องการ ลงบนผ้า ที่เตรียมไว้ ด้วยดินสอ 2 Bขึ้นไป
2.2.2 ใช้น้ำเทียนที่ตั้งไฟจนละลาย มาทาบนเฟรมแล้วนำผ้ามาวางขึงบนเฟรมให้ตึง น้ำเทียนจะเป็นตัวจับผ้ากับเฟรม ขูดผ้าบริเวณขอบเฟรมด้วยเหรียญ หรือด้ามช้อน เพื่อให้ผ้าจับกับเฟรมแน่นขึ้น
2.2.3 จุ่มชานติ้งในน้ำเทียนให้ชานติ้งร้อน เดินเทียนขณะที่เทียนอุ่นกำลังดี เขียนเส้นที่ต้องการ เส้นเทียนไม่ควรใหญ่เกิน 2 –3 ม.ม. ควรถือกระดาษทิชชูไว้รอง เพื่อป้องกันการหยดของน้ำเทียนขณะเขียนลาย เพราะถ้าน้ำเทียนหยดใส่ตรงจุดใดแล้วสีจะไม่ติด เวลาวาดเส้นเทียน ถ้าเส้นเทียนเริ่มเล็กลง และเป็นสีขุ่นแสดงว่าเทียนเริ่มแข็งจะไม่ซึมเข้าเนื้อผ้า ให้รีบขูดออกแล้ววาดใหม่ ไม่เช่นนั้นเวลาลงสี สีจะซึมออกนอกขอบเทียน
2.2.2 ใช้น้ำเทียนที่ตั้งไฟจนละลาย มาทาบนเฟรมแล้วนำผ้ามาวางขึงบนเฟรมให้ตึง น้ำเทียนจะเป็นตัวจับผ้ากับเฟรม ขูดผ้าบริเวณขอบเฟรมด้วยเหรียญ หรือด้ามช้อน เพื่อให้ผ้าจับกับเฟรมแน่นขึ้น
2.2.3 จุ่มชานติ้งในน้ำเทียนให้ชานติ้งร้อน เดินเทียนขณะที่เทียนอุ่นกำลังดี เขียนเส้นที่ต้องการ เส้นเทียนไม่ควรใหญ่เกิน 2 –3 ม.ม. ควรถือกระดาษทิชชูไว้รอง เพื่อป้องกันการหยดของน้ำเทียนขณะเขียนลาย เพราะถ้าน้ำเทียนหยดใส่ตรงจุดใดแล้วสีจะไม่ติด เวลาวาดเส้นเทียน ถ้าเส้นเทียนเริ่มเล็กลง และเป็นสีขุ่นแสดงว่าเทียนเริ่มแข็งจะไม่ซึมเข้าเนื้อผ้า ให้รีบขูดออกแล้ววาดใหม่ ไม่เช่นนั้นเวลาลงสี สีจะซึมออกนอกขอบเทียน
2.2.4 ผสมสีตามอัตราส่วนเข้มมาก
เข้มน้อย และสีแต่ละแบบ ระบายสีตามลาย
ส่วนไหนจะให้สีกลมกลืนกันให้ใช้ปลายนิ้วไล่สีไป – มาให้กลมกลืนกันก่อนระบายสีควรระบายน้ำที่ผืนผ้าก่อน
ถ้าผ้ามีน้ำแฉะมากเกินไปให้ซับด้วยกระดาษทิชชู เวลาจะระบายสี
ให้ระบายจากส่วนริมก่อน หรือตามแนวลูกศรของลาย
เพราะบางลายต้องการไล่สีจากเข้มไปหาอ่อน หรือส่วนขอบเข้าหาตรงกลางเสมอ
(การระบายน้ำบนผ้าก่อน เพื่อเวลาระบายสีจะได้ไม่เป็นคราบสีเข้มตรงขอบลาย)
ระบายพื้น เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผึ่งให้สีแห้ง
2.2.5 ทาน้ำยากันสีตก ทาโซเดียมซิลิเกต ให้ทั่วลายที่ลงสีไว้ (ถ้าโซเดียมซิลิเกตข้นเกินไปให้ผสมน้ำได้เล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน) ผึ่งให้โซเดียมซิลิเกตแห้งหรือประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง เวลาผึ่งผ้าเพื่อรอให้สีหรือโซเดียมซิลิเกตแห้ง ต้องผึ่งผ้าให้ราบกับพื้น อย่าตั้งขึ้นหรือตะแคงเป็นอันขาดเพราะสีจะไหลซึมเข้าหากัน
2.2.6 ละลายเทียนออก นำผ้าที่ลงโซเดียมซิลิเกตจนแห้งแล้วไปซักทำความสะอาดให้สีและโซเดียมซิลิเกตออก แล้วต้มให้เทียนออก ซักกับผงซักฟอก แล้วซักในน้ำเปล่าให้สะอาด นำไปผึ่ง รีดให้เรียบร้อย
2.2.5 ทาน้ำยากันสีตก ทาโซเดียมซิลิเกต ให้ทั่วลายที่ลงสีไว้ (ถ้าโซเดียมซิลิเกตข้นเกินไปให้ผสมน้ำได้เล็กน้อย แล้วคนให้เข้ากัน) ผึ่งให้โซเดียมซิลิเกตแห้งหรือประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง เวลาผึ่งผ้าเพื่อรอให้สีหรือโซเดียมซิลิเกตแห้ง ต้องผึ่งผ้าให้ราบกับพื้น อย่าตั้งขึ้นหรือตะแคงเป็นอันขาดเพราะสีจะไหลซึมเข้าหากัน
2.2.6 ละลายเทียนออก นำผ้าที่ลงโซเดียมซิลิเกตจนแห้งแล้วไปซักทำความสะอาดให้สีและโซเดียมซิลิเกตออก แล้วต้มให้เทียนออก ซักกับผงซักฟอก แล้วซักในน้ำเปล่าให้สะอาด นำไปผึ่ง รีดให้เรียบร้อย
2.3
การผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อการประชาสัมพันธ์
ผ้าบาติกโดยทั่วไปกรรมวิธีในการทำผ้าบาติกไม่ซับซ้อนมากนัก
ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ คือการเขียนเทียน แต้มหรือย้อมสี และลอกเทียนออกจากผ้า
ทุกขั้นตอนในการทำจะต้องมี ความประณีต ละเอียด พิถีพิถัน
จึงจะทำให้ผ้าบาติกดูมีความสวยงาม นอกจากนั้นยังรวมถึงความตั้งใจในการทำงานด้วย
ผลงานที่สำเร็จออกมาจึงจะมีคุณภาพดี มีลักษณะเป็นงานด้านหัตอุตสาหกรรม
และเป็นงานด้านศิลปะอยู่ในตัวด้วย ในการทำผ้าบาติกนั้น
นอกจากการออกแบบลวดลายที่มีความสำคัญแล้ว เครื่องมือ และ วัสดุอุปกรณ์
ก็จะต้องเตรียมให้พร้อมหลังจากที่ออกแบบลวดลายเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ถ้าขาดวัสดุอุปกรณ์ในขั้นตอนใด อาจจะทำให้การทำงานที่ได้ดำเนินไปแล้วต้องหยุดลง
เป็นผลทำให้งานชิ้นนั้นเสียหายได้
เมื่อเตรียมเครื่องมือที่ต้องใช้ในการทำผ้าบาติกแล้ว
ก็ต้องนำผ้าที่ต้องการทำมาขึงกับกรอบไม้ให้ตึงพอสมควร
เพื่อความสะดวกในการเขียนเทียน ระบายสี และนำไปผ่านขั้นตอนในการทำต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น